Thursday, December 25, 2008

บทความดีๆสำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงครับ



บทความดีๆสำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงครับ

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
( 1 ) ชีวิตของฉันอย่างมาก ก็จะสิ้นสุดเพียงแค่ 10-15 ปีเท่านั้น การต้องแยกจากเธอไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ นับเป็นความปวดร้าวอย่างยิ่งของฉัน จึงโปรดสังวรให้จงหนัก.. ก่อนจะรับฉันเข้ามาในชีวิต

( 2 ) ให้เวลากับฉันสักหน่อย เพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจน ว่าเธอต้องการอะไรจากฉัน

( 3 ) จงเชื่อมั่นในตัวฉัน เพราะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับความเป็นอยู่ของฉัน

( 4 ) อย่าโกรธฉันให้นานนัก และอย่าลงโทษฉันด้วยการกักขัง เธอมีทั้งหน้าที่การงาน ความบันเทิง และมิตรสหาย แต่ฉันนั้น...มีเพียงเธอ

( 5 ) พูดกับฉันบ้าง แม้ฉันจะไม่เข้าใจคำพูด แต่ฉันก็เข้าใจเธอได้จากน้ำเสียง

( 6 ) พึงระลึกอยู่เสมอว่า... ไม่ว่าเธอจะปฏิบัติอย่างไรต่อฉัน ฉันจะไม่มีวันลืมเลือนเลย

( 7 ) โปรดอย่าทุบตีฉัน เพราะแม้ฉันจะทุบตีเธอกลับไม่ได้ แต่ฉันก็สามารถกัดหรือข่วนตะกุยเธอได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากกระทำเลย

( 8 ) ก่อนจะดุด่าฉันสำหรับท่าทีที่คล้ายไม่เชื่อฟัง ดื้อดึง เกียจคร้าน ขอจงได้ถามตัวเธอเองก่อนว่า เกิดสิ่งผิดปกติกับตัวฉันหรือไม่ บางทีอาจจะมาจากเรื่องของอาหาร หรือถูกทิ้งไว้กลางแดดนานเกินไป
หรือหัวใจของฉัน แก่ชราและอ่อนล้าเสียแล้ว

( 9 ) ดูแลฉันเมื่อยามแก่เฒ่าด้วย เพราะวันหนึ่งเธอก็ต้องเป็นเช่นนั้น

( 10 ) อยู่กับฉันเมื่อช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมาถึง ขออย่าได้พูดเป็นอันขาดว่า "ฉันทนดูไม่ได้ ขออย่าให้มันเกิดขึ้นต่อหน้าเลย" เพราะเรื่องราวทั้งหมดจะง่ายขึ้นหาก...เธออยู่ด้วย

สุดท้ายที่สุด...โปรดรำลึกเสมอว่า "ฉันรักเธอ"


ขอขอบคุณบทความจาก catandkittenstory.com

Monday, October 13, 2008

ความล้มเหลวมันคืออะไรกันแน่..





ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณคือคนที่ล้มเหลว
แต่มันหมายถึง คุณยังไม่ประสบความสำเร็จต่างหาก

ความล้มเหลวไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ประสพผลสำเร็จในสิ่งใดเลย
แต่มันหมายถึง คุณได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเพิ่มขึ้น


ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณขาดความสง่างาม
แต่มันหมายถึง คุณกำลังยินดีในความพยายามต่างหาก

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้มีมัน
แต่มันหมายถึง คุณไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง


ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณได้สูญเสียชีวิตไปแล้ว
แต่มันหมายถึง คุณมีเหตุผลที่จะเริ่มใหม่อีกไหม

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณจะล้มเลิก
แต่มันหมายถึง คุณต้องพยายามให้หนักกว่าเก่า


ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ทำมันอีก
แต่มันหมายถึง คุณต้องใช้เวลามากกว่าเก่าอีกเล็กน้อย


ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าไม่แยแสคุณ
แต่มันหมายถึง พระเจ้ามีหนทางที่ดีกว่าสำหรับคุณต่างหาก

*~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~*

Wednesday, August 27, 2008

วิธีรับมือกับความ..ขี้หึง!!

ท่านผู้อ่านเป็นอีกคนรึเปล่าที่ มีแฟนขี้หึง? เอ๊ะ หรือคุณเองต่างหากที่หึงแฟนน้า ที่จริงใครจะหึงใครก็ดีอยู่หรอก เพราะนัยนึงก็รู้ๆ กันอยู่ว่า แฟนยังหึงอยู่ก็แสดงว่า แฟนทั้งรักและหวง รวมทั้งอยากให้เป็นของเค้าเพียงคนเดียว...แต่เอ๊ะ ประการหลังที่ว่า อยากให้เป็นของเค้าคนเดียว ฟังดูทะแม่งๆ แหม ทำหยั่งกะ “คนที่เป็นแฟน” ไม่มีหัวจิตหัวใจ หรือเป็นสัตว์เลี้ยงของเค้างั้นแหละ

ดังนั้น จงอย่ามองข้าม อาการขี้หึงของทั้งตัวคุณเองและคนที่คุณกะฉวยมาเป็น แฟนด้วยละกัน เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะอารมณ์แบบนี้ ทำให้ชีวิตคู่พังพินาศมานักต่อนักแล้วอ่ะดิ แล้วไม่ว่าใครจะแสดงอารมณ์หึงออกมาด้วยพฤติกรรมแบบไหน? เช่น พอหึงแล้วทำทีไปจับมือเค้าไว้ เพื่อแสดงให้คนอื่นรู้ว่า เค้ามีแฟนแล้ว ย่อมดีกว่า พอหึงแล้วอาละวาดโครมครามให้ขายหน้าประชาชีว่ามะ โถ โตๆ และมีการศึกษากันแล้วยังทำเป็นนางร้ายในละครทีวีอีกเรอะ แต่สังเกตสังกากันรึเปล่าว่า ผู้หญิงหรือผู้ชาย เพศไหนขี้หึงมากกว่ากัน?

โอ้โห ถามอะไรก็ไม่รู้ ตอบย้าก ยาก เพราะบทคนเราจะหึงแล้วละก็ ไม่ว่าชายหรือหญิงก็โชว์ลีลาการหึงได้ดุเด็ดเผ็ดแสบ และเข็ดฟันไม่แพ้กันนักหรอก ฉะนั้น หากท่านใดรู้ตัวว่าเป็นคนขี้หึงละก็ มาหาทางแก้ไขกันเหอะ ด้วยการ.....

1. คิดให้ตกว่า ความหึง เป็นสิ่งที่ทำให้เสียเวลา

แทนที่คู่รักมัวแต่จับผิดกันว่า เดี๋ยวจะมีใครมาชอบแฟนตูรึเปล่าว่ะ หรือไม่งั้นก็กังวลว่า ทำมั้ยทำไมแฟนเราชอบเหล่มองคนอื่นอยู่เรื่อย แถมมองไม่มองเปล่า แต่มองด้วยสายตาเจ้าชู้ ซึ่งน่าตื้บหรอกนะ แต่คิดดูดิ ว่าจะเอาเรื่องแค่นี้มาใส่ใจไปทำไม? ในเมื่อเค้าก็ได้แต่มองล่ะว้า...นี่พูดถึงคนที่ชอบมองอย่างเดียวจริงๆ ไม่ได้หวังจะไปหาเศษหาเลยนอกลู่นอกทางนะ

เพราะถ้าเค้าอยากจีบหรือกิ๊กกะคนอื่นจริงๆ ละก็ ไม่มีวันซะล่ะ ที่จอมเจ้าชู้จะทำต่อหน้าต่อตาแฟนตัวเองให้จับได้ ดังนั้น พวกเราสู้ใช้เวลาที่ต้องคอยพะวงพะแวงไปทำประโยชน์ให้ตัวเองไม่ดีกว่าเรอะ ด้วยการยึดทรัพย์ของแฟนมาดเจ้าชู้ทั้งหมดมาเป็นของเราซะ แล้วปล่อยมันไป จะไปหว่านเสน่ห์ใครก็เอาเหอะ เพราะไม่มีทางรั้งมันอยู่ร้อก แค่สั่งสอนให้เค้าบ่จี๊ไม่มีเงิน ก็ไม่น่าจะไปไหนรอด คอยดูละกัน

2. จำไว้ว่า ความหึงมีแต่บ่อนทำลายสัมพันธภาพของคู่รักที่เคยรู้สึกดีๆ ต่อกันให้พังทลายลง แล้วยังอยากหึงอีกเรอะ

ของพรรค์นี้ที่จริงแทบไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจกันอยู่แล้วใช่ม้า ว่าขืนมัวหึงไม่เข้าเรื่อง, หึงสะเปะสะปะ และไม่บันยะบันยัง แทนที่ “คนถูกหึง” จะรู้สึกดีว่าแฟนรัก ตรงข้าม อาจผิดหวังมากกว่าสิ เพราะถ้าหึงแบบไร้สติก็เท่ากับระแวงกันนี่หว่า แถมยังหมายความว่า ไม่ไว้ใจกันซะด้วย จนดีไม่ดีอาจทำให้ “คนถูกหึง” อยากตีตัวออกห่าง เพราะเหนื่อยใจน่ะสิ...ถามได้ แทนที่เป็นคู่รักแล้วจะอยู่กันอย่างมีความสุขกลับทุกข์ถนัด เฮ้อ...เสียดายจัง รู้งี้อยู่คนเดียว ไม่หาเหาใส่หัวซะก็ดี

3. ท่องไว้เลยว่า ถ้าอยากเอาชนะความหึงต้องอาศัยความอดทน, อดทน และอดทน ไม่มียาแก้ความขี้หึงยี่ห้อไหนที่ใช้ได้ผลชะงักไปกว่า ความอดทนอีกแล้วละน้องเอ๊ย

ฉะนั้น หากให้แนะอย่างกำปั้นทุบดิน ก็จงทำตัวแบบ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” เข้าไว้ แล้วบางที เหตุการณ์ ที่ทำให้พวกเราคิดว่า ไม่น่าไว้ใจแฟนก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีเองแหละ เพราะความอดทนก็คือการประนีประนอม ของคู่รักอย่างนึง แถมยังเป็นการให้เกียรติเค้าด้วย

มีสาวบางคน เห็นแฟนเข้าไปกอดเด็กสาวคนนึง แล้วใจหล่อนงี้อู้หูแทบอยากฉีกแฟน ออกเป็นชิ้นๆ ไปเดี๋ยวนั้นเลย แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ แฟนก็แนะนำให้รู้จักว่า เด็กคนนี้คือน้องสาว หรือหลานเค้าต่างหาก ฝ่ายหญิงจึงเกือบโดนข้อหาทำร้าย ร่างกายไปแล้วไหมล่ะ แต่ดีที่อดทน ไม่แสดงความรู้สึกเฟอะฟะและตีตนไปก่อนไข้ออกมาซะก่อน เรื่องนี้จึงจบอย่างแฮปปี้ เอนดิ้ง ไม่งั้นคงหน้าแหก และผิดใจกะแฟนไปแล้ว นี่แน่หวิดตกพุ่มม่ายแล้วไหมล่ะ

4. รู้ป่าวว่า ความหึงทำให้คนหน้าตาดีแก่เร็วมานักต่อนักแล้ว

สังเกตตอนที่คุณหึงสิ หน้าตาของคุณเป็นอย่างไรกันมั่งล่ะ? รับรองสีหน้าย่อมขาดความสุข, คิ้วขมวด, ยิ้มไม่ออก หรือไม่ก็ทำเป็นแสยะยิ้ม รวมถึงการชักสีหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนพา ตีนกา ให้เกิดขึ้นเร็วกว่าวัยอันควรทั้งน้านล่ะ ขืนมีสีหน้าบอกบุญไม่รับบ่อยๆ อีกหน่อยอาจเสียตังค์ไปลบริ้วรอยไม่รู้ด้วย

รู้งี้ แล้วยังอยากหึงแรงเพราะรักแรงอีกมะ สู้รักษาหน้าตาดี๊ ดีของคุณๆ เอาไว้ไม่ดีกว่าเรอะ เพราะแฟนใครมั่งว้า ที่ยังอยากอยู่กับคนหน้าตาบูดบึ้ง หรือคิ้วผูกโบ แถมยังมีริ้วรอยบนหน้าผากน่ะ ขืนหึงแล้วทำให้แก่ไว้ไว งั้นกรุณาคิดกันซะให้ดีๆ ก่อนหึงละกันนะ

5. ก่อนหึง อย่าลืมฉุกคิดไว้เสมอว่า คุณกำลังคิดมากไปเองแหงเลย จะได้สบาย

ใจแม้แฟนจะไม่ชอบเอ่ยปากบอกรักคุณบ่อยๆ จะเป็นเพราะเค้าปากหนัก หรือคิดว่าไม่จำเป็นต้อง พูดซ้ำพูดซากก็แล้วแต่ จงเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ว่า คุณเองก็มีดีอยู่ในตัวไม่แพ้ใครๆ ดังนั้น ต่อให้แฟนเป็นคนขี้เบื่อขนาดไหน ก็ไม่ยอมพรากจากกันแน่ๆ เพราะหนูเป็น 1 ในตองอูนี่นา แต่มั่นใจในตัวเองก็ควรมีดีอยู่กะตัวจริงๆ แค่เนี้ย ก็ไม่ต้องเหวี่ยงแหหึงเรื่อยเปื่อยแล้วน่ะเซ่

ขอขอบคุณข้อมูล จาก สนุกดอทคอม

Saturday, July 26, 2008

วาทะความรัก




'คู่รักจะเอาใจใส่อีกฝ่าย ส่วนคู่เวรจะเอาแต่ใจตัวเอง'

...

'คู่เทียมเจอเมื่อไหร่ก็ได้
แต่คู่แท้ต้องเจอในจังหวะที่จะรักกันจริงเท่านั้น'

...

'ใจจริงไม่ได้เกิดจากความตั้งใจให้จริงเสมอไป
ถ้าคู่ยังไม่ใช่ ใจก็คงจริงยาก'

...

'รู้สึกว่าใช่ ไม่จำเป็นต้องใช่
โดยเฉพาะถ้าได้ความรู้สึกว่าใช่มาจากการเอาแต่มองด้านดีท่าเดียว'

...

'อำนาจที่ทำให้ลุ่มหลงส่งมาจากส่วนสกปรกตรงไหนของร่างกายก็ได้
แต่แรงบันดาลที่ทำให้รักจริงต้องมาจากกลางใจที่ใส่พอเท่านั้น'

...

'ความลุ่มหลงจะทำให้หน้าตาของเราโง่ลง
ส่วนการเห็นตามจริงจะทำให้หน้าตาฉลาดขึ้นเป็นคนละคน'

...

'คนเราตาบอดเพราะชอบทึกทักเอาเองว่าเห็นอะไรมา
ที่จะตาสว่างได้ก็เพราะยอมทบทวนดีๆ ว่ามีอะไรให้เห็นบ้าง'

...

'การจากกันบางครั้งดีกว่าอยู่กันไปเรื่อยๆ เพราะอาจเป็นทางเดียว
ที่ทำให้คุณค้นพบว่าเคยมีความรักอยู่ตรงนั้นขนาดไหน'

...

'สิ่งดีๆ ที่ผ่านไป อาจเปิดทางให้สิ่งดีกว่าที่กำลังจะผ่านเข้ามา'

...

'รักที่ตายได้คือรักแต่จะเอา
ส่วนรักอมตะคือรักการสละความเห็นแก่ตัว'

...

'เราอาจหลอกให้คนอื่นหลงรักได้ด้วยรูปภายนอก
แต่ไม่มีทางหลอกให้รักตัวเองได้เลย
ตราบเท่าที่รู้อยู่แก่ใจว่าภายในยังน่าเกลียดขนาดไหน'

...

'ความรักไม่ได้อยู่ที่หัวใจ แต่อยู่ที่ใจทั้งดวง เพราะหัวใจกว้างไม่ถึงคืบ
ขนะที่ความรักแผ่กว้างได้ขนาดครอบโลก'

...

'การเริ่มต้นของความรักที่ซับซ้อน อาจเหมือนปกหนังสือที่ดูดีหลอกตา
แต่เนื้อหาข้างในไม่ตรงกัน คุณจะงงเมื่อพยายามอ่าน
และปวดหัวจนไม่นึกอยากทนอ่านให้ถึงครึ่ง'

...

'ถ้าตัวอยู่ห่างแล้วยังรู้สึกอบอุ่นและไว้ใจกัน
ก็แปลว่าพวกคุณรักกันด้วยใจ ไม่ใช่หลงติดกันด้วยกาย'

...

'คนซื่ออาจพูดคำว่ารักได้ไม่เพราะ แต่ความรักของเขา
จะให้ความรู้สึกแสนดีกว่าการได้ยินคำว่ารักอันไพเราะร้อยเท่า'

...

'ถ้าดีใจเวลาเห็นใครเป็นสุข คุณอาจไม่จำเป็นต้องรักเขาเสมอไป
แต่ถ้าอ้างว่าคุณรักใครแล้วไม่ยินดีกับความสุขของเขา
แปลว่าคุณเห็นแก่ตัวและดีแต่พูดเท่านั้น'

...

'ความรักที่อภัยไม่ได้คือต้นทางของความเกลียด
ความเกลียดที่ถูกสละทิ้งได้คือต้นทางของความรัก'

...

'มีความสามารถในการผ่านรักร้าว
ดีกว่ามีความสามารถฝันถึงแต่รักแสนหวาน'

...

'คนที่เอาแต่คอยความรักจะไม่เจอความรักไปจนตาย
ส่วนคนที่เอาแต่สร้างความรักจะรู้จักความรักในสามวันเจ็ดวัน'

...

'อำนาจนัยน์ตาของคนที่รักคุณจริง
อาจทำให้คุณสงบลงได้ทั้งที่กำลังวุ่นวายสิ้นดี
แต่อำนาจนัยน์ตาของคนที่เอาแต่เรียกร้องให้คุณรัก
อาจทำให้คุณวุ่นวายสิ้นดีทั้งที่กำลังสงบอยู่แท้'




ที่มา จาก หนังสือดังตฤณวิสัชนา ฉบับรู้จักรัก

Sunday, July 13, 2008

10 ปีที่ผ่านไป ไม่มีค่าเท่ากับ 1 วันที่เหลืออยู่





ความทรงจำเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับคนบางคน
โดยเฉพาะคนที่มีเวลาดีๆ ที่ใช้กับคนรัก
ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนหวงแหน
ต้องระลึกไว้ในความทรงจำ ต้องถนอมดูแลให้ดี

หลายคนจึงไม่อาจตัดใจจากวันเก่าๆ ได้เสียที
เพราะว่ามีความสุขกับการได้คิดถึงอะไรดีๆที่ผ่านไป
โดยลืมนึกไปว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้วจะไม่มีวันย้อนกลับคืนมาได้อีก
หากจะต้องตัดใจลืมหรือเดินจากอดีตมาก็ไม่ได้อีก
เพราะเหตุผลที่ว่า "เสียดายเวลา" ที่คบกันมา

บางคนคบกันมานานจนแทบจำไม่ได้ว่า
เคยยิ้มให้กับความรักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
เพราะหลังๆ มาก็อยู่แต่กับความทุกข์
จนนึกภาพความสุขไม่ออกแต่ที่ไม่กล้าเลิกเพราะยังคิดถึงวันเก่าๆ
แค่เสียดายเวลาที่คบกันมาเนิ่นนาน
โดยไม่คิดเลยว่า ทุกๆวันของวันนี้ พรุ่งนี้และวันต่อๆไป
ก็จะกลายเป็นเพียงวันเก่าๆ ที่น่าเสียดาย
และ...เวลาที่น่าเสียดายก็จะเพิ่มขึ้นๆ

จริงๆ แล้ว วันคืนในอดีต
ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเราเลย
นอกจากมีไว้ให้ นึ ก ถึ ง
อาจจะทำให้เรายิ้มได้บ้าง แต่ทำให้เราคาดหวังไม่ได้
เราจะไปหวังว่าวันหนึ่ง วันเหล่านั้นจะกลับมา
หรือจะไปเฝ้าฝันว่าความสุขเหล่านั้นยังคงเป็นปัจจุบัน
หรือหลอกตัวเองว่าตอนนี้ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม
จะยังไงก็แล้วแต่คือการหลอกตัวเองทั้งนั้น
ยอมรับเถอะว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว และจบไปแล้ว
ความทรงจำเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

เวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะ 1 ปี 5 ปี หรือกี่สิบปี
ก้อไม่ได้มีความหมายมากไปกว่า...
หนึ่งวันข้างหน้าที่เราจะต้องมีชีวิตใหม่ ที่เราจะต้องเริ่มต้นใหม่
เมื่อคนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน
เพื่อที่จะสร้างอนาคตให้ตัวเองได้อยู่ในอนาคตที่ดี

เวลา 10 ปี กับวันคืนที่เคยหวานชื่น
ไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่า 1 วันแห่งการเริ่มต้น
1 วันแห่งการแปรเปลี่ยนชีวิตของเราทั้งชีวิต ใ ห้ ดี ก ว่ า ที่ เ ป็ น
" หากจะเสียดายเวลาน่ะ ไม่ต้องเสียดายเวลาที่คบกันมาหรอก
ให้เสียดายเวลาในวันข้างหน้า
ที่จะอดทนคบไปทั้งที่ไม่มีอะไรแล้วจะดีกว่า
แล้วยังจะมาเสียดายอดีต...

นึกดูดีๆ ว่าเสียดายอนาคต ดีกว่าไหม
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก thaireaderclub.com

4 ข้อทายนิสัย (ลองดูนะว่าตรงรึเปล่า ???)

1. สัตว์ชนิดใดต่อไปนี้ที่คุณเกลียดมากที่สุด

1. แมงมุม 2. แมลงสาบ 3. ตุ๊กแก 4. ตะขาบ

2. ขณะที่คุณกำลังเดินอยู่บนสะพานลอยเพื่อที่จะข้ามถนนไปห้างสรรพสินค้า คุณเจอขอทานบริเวณบันไดทางลง และคุณให้เงินแก่ขอทาน(ใจบุญมากๆ ) คุณคิดว่าขอทานคนนั้นมีลักษณะอย่างไร

1. ตาบอด 2. พิการ 3. คนแก่ 4. เด็ก

3. คุณนัดกะเพื่อนๆ ไปเที่ยวทะเล และแวะกินอาหารทะเลด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย ทุกคนทานอาหารเหมือนๆ กัน เมื่อไปถึงที่พัก ปรากฎว่า คุณเกิดท้องเสีย แต่เพื่อนๆ ไม่เป็นอะไรเลย (กระเพาะหนามากๆ) คุณคิดว่าอาหารทะเลชนิดใดเป็นสาเหตุให้คุณท้องเสีย

1. กุ้ง 2. หอย 3. ปู 4. ปลา 5. ปลาหมึก

4. ในวันหยุด คุณเดินทางโดยเครื่องบินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณอยากไปพักผ่อน ขณะนี้คุณนั่งเครื่องมาได้ครึ่งทางแล้ว คุณคิดว่าด้านล่างของเครื่องบินเป็นอะไร

1. อาคารบ้านเรือน 2. ทะเล 3. ป่าไม้ 4. ทุ่งหญ้า

เฉลยจ้า ... มาดูกันสิว่าตรงใจคุณแค่ไหน

1. สัตว์ที่คุณเกลียด สื่อถึง นิสัยบางอย่างที่เมื่อคุณพบในตัวคนรักหรือคนที่คุณกำลังให้ความสนใจ คุณจะเลิกคบและเลิกให้ความสนใจคนๆ นั้นทันที 1. แมงมุม สื่อถึง ความลึกลับน่ากลัว 2. แมงสาบ สื่อถึง ความไม่แน่นอน ลังเลใจ ไม่มีความเป็นผู้นำ 3. ตุ๊กแก สื่อถึง ความเจ้าเล่ห์ไม่จริงใจ 4. ตะขาบ สื่อถึง ความสนิทสนมเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง

2. ลักษณะของขอทาน สื่อถึง บุคคลที่มีความสำคัญหรือจำเป็นต่อชีวิตของคุณ ซึ่งจะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่คุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนๆ นั้น 1. คนตาบอด สื่อถึง คนรัก หรือเพื่อน 2. คนพิการ สื่อถึง ญาติพี่น้อง 3. คนแก่ สื่อถึง พ่อแม่ 4. เด็ก สื่อถึง ตัวของคุณเอง

3. อาหารทะเลที่ทำให้คุณท้องเสีย สื่อถึง ข้อบกพร่องของคุณที่ควรระมัดระวังเพราะอาจทำให้เพื่อนๆ รู้สึกไม่ดีกับคุณ 1. กุ้ง สื่อถึง ความไม่มั่นใจในตัวเอง ลังเลตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได ้ต้องขอคำปรึกษาจากคนอื่นอยู่ตลอดเวลา 2. หอย สื่อถึง ความขี้เกรงใจ จนบางครั้งมากเกินไป 3. ปู สื่อถึง ความเป็นคนไม่แน่นแน เจ้าอารมณ์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย 4. ปลา สื่อถึง ความเป็นคนไม่รู้จักพอเอาแต่ใจตัวเองต้องการความสมบูรณ์แบบอยู่ตลอดเวลาทำใ ห้บางครั้งคุณอาจแสดงกิริยาเกินหน้าเกินตาเพื่อนๆ 5. ปลาหมึก สื่อถึง การเอาเรื่องส่วนตัวของเพื่อนๆมาพูดในที่สาธารณะ

4. สิ่งที่คุณเห็นอยู่ด้านล่าง สื่อถึง ปัญหาในชีวิตที่คุณอยากจะหนีไปให้พ้น 1. อาคารบ้านเรือน สื่อถึง ปัญหาที่เกิดจากที่ทำงาน การเรียนหรือความ สัมพันธ์ของคุณกับ เพื่อนร่วมงาน 2. ทะเล สื่อถึง ปัญหาเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจากตัวคุณเอง 3. ป่าไม้ สื่อถึง ปัญหาภายในครอบครัว หรือเรื่องราวความรักของคุณ 4. ทุ่งหญ้า สื่อถึงปัญหาที่เกิดจากเพื่อนหรือความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง